“แผ่นดินไหวทิพย์” หรือโรคหลอดเลือดสมอง? อย่ามองข้ามสัญญาณเตือนจากสมอง
คุณเคยรู้สึกไหมว่าโลกกำลังโยกหรือสั่น ทั้งที่ไม่มีใครรอบตัวรู้สึกอะไรเลย? อาการนี้บางคนเรียกติดตลกว่า “แผ่นดินไหวทิพย์” แต่รู้หรือไม่ว่า ความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ อาจไม่ใช่แค่เรื่องเครียดหรือคิดไปเอง แต่อาจเป็น “สัญญาณเตือนจากสมอง” ที่ไม่ควรมองข้าม
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับอาการที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ซ่อนความเสี่ยงของ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เอาไว้ และวิธีการฟื้นฟูที่เหมาะสมหากเกิดอาการแล้ว
“แผ่นดินไหวทิพย์” คืออะไร?
คำว่า “แผ่นดินไหวทิพย์” เป็นศัพท์ที่คนทั่วไปใช้เรียกอาการ รู้สึกเหมือนพื้นหรือสภาพแวดล้อมรอบตัวกำลังโยกหรือสั่น ทั้งที่ความเป็นจริงไม่มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น
อาการนี้สามารถเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น:
- ความผิดปกติของหูชั้นใน (Vestibular disorder)
- ภาวะ MdDS (Mal de Débarquement Syndrome)
- ความเครียดหรือวิตกกังวล
- สัญญาณเตือนแรกของโรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมอง กับอาการที่คุณอาจไม่เคยรู้
เมื่อพูดถึง “สโตรค” หรือ Stroke (โรคหลอดเลือดสมอง) หลายคนมักนึกถึงอาการชัดเจน เช่น หน้าเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง แต่ในความจริงแล้ว Stroke บางประเภท โดยเฉพาะที่เกิดในสมองส่วนหลัง (posterior circulation) อาจแสดงอาการแตกต่างออกไป เช่น:
- เวียนหัวอย่างรุนแรงและเฉียบพลัน
- มึนงง เหมือนโลกกำลังหมุนหรือโยก
- เดินเซ ทรงตัวไม่ได้
- ตามัว มองเห็นซ้อน หรือมองไม่เห็นบางส่วนของลานสายตา
- รู้สึกเหมือน “พื้นไม่มั่นคง” หรือ “แผ่นดินไหวทิพย์”
- คลื่นไส้อาเจียนที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วร่วมกับอาการอื่น
จากการศึกษาในวารสาร Stroke ของสมาคมโรคหัวใจอเมริกัน พบว่าผู้ป่วยสโตรคกว่า 25% มีอาการเวียนศีรษะเป็นอาการนำ แต่มักถูกวินิจฉัยผิดเป็นอาการทางหูชั้นใน ทำให้การรักษาล่าช้า ส่งผลต่อความรุนแรงของโรคและความสามารถในการฟื้นตัว
แล้วเราจะแยกแยะได้อย่างไร?
อาการที่พบ | อาจเป็นโรค | ควรทำอย่างไร |
---|---|---|
เวียนหัวหลังลงเรือ/เครื่องบิน | MdDS | สังเกตต่อ หากไม่หายใน 1-2 สัปดาห์ควรพบแพทย์ |
บ้านหมุน คลื่นไส้อาเจียน | หูชั้นในอักเสบ | พบแพทย์หูคอจมูก |
เดินเซ พูดไม่ชัด ตามัว | Stroke | รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที ทุกนาทีมีค่า |
หากมีอาการใดอาการหนึ่งเกิดขึ้นฉับพลัน ร่วมกับเวียนหัวหรือรู้สึก “แผ่นดินไหวทิพย์” ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโดยเร็วที่สุด
การวิจัยจากวารสาร Journal of Stroke and Cerebrovascular Diseases พบว่า ผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลด้วยอาการเวียนศีรษะเพียงอย่างเดียว มีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 3-5% แต่หากมีปัจจัยเสี่ยงร่วม เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โอกาสจะเพิ่มเป็น 10-25%
“แผ่นดินไหวทิพย์” อาจไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
แม้อาการ “เหมือนโลกโยก” จะดูไม่อันตรายในช่วงแรก แต่หากเกิดบ่อยหรือรุนแรงขึ้น ควรได้รับการตรวจอย่างละเอียด โดยเฉพาะหากมีอาการร่วม เช่น:
- พูดช้าหรือพูดไม่ชัด
- แขนขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง
- มองเห็นไม่ชัด หรือตาพร่า
- ปวดศีรษะรุนแรงทันที
- ชาที่ใบหน้าหรือแขนขาข้างใดข้างหนึ่ง
แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจ MRI หรือ MRA เพื่อตรวจสอบระบบหลอดเลือดสมองโดยละเอียด ซึ่งสามารถช่วยวินิจฉัยได้แม่นยำกว่าการตรวจ CT Scan ทั่วไป
การฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง – ความหวังหลังภาวะวิกฤต
หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมอง การฟื้นฟูที่เหมาะสมและรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ผลการศึกษาจากสถาบันประสาทวิทยาแห่งชาติสหรัฐอเมริกาพบว่า การเริ่มกระบวนการฟื้นฟูภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังจากอาการคงที่ จะช่วยเพิ่มโอกาสฟื้นตัวได้มากกว่า 60%
การฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพประกอบด้วย:
1. การฟื้นฟูทางกายภาพ
- กายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและการทรงตัว
- กิจกรรมบำบัด เพื่อฝึกการใช้ชีวิตประจำวัน
- อรรถบำบัด สำหรับผู้มีปัญหาด้านการพูดและการกลืน
2. โปรแกรมฟื้นฟูเฉพาะด้าน
- การฝึกการทรงตัวสำหรับผู้ที่มีอาการ “แผ่นดินไหวทิพย์” หลังเกิดสโตรค
- การฝึกกลืนสำหรับผู้มีภาวะกลืนลำบาก
- การฟื้นฟูการมองเห็นสำหรับผู้มีปัญหาทางสายตา
3. การดูแลต่อเนื่อง
- การติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
- การปรับแผนการฟื้นฟูตามความก้าวหน้า
- การให้คำปรึกษาทางโภชนาการเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
ป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าเสี่ยง Stroke
การดูแลสุขภาพสมองไม่ควรเริ่มตอนที่ป่วยแล้ว ควร:
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
- ควบคุมความดัน ไขมัน น้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- พักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะหากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
ข้อมูลจากมูลนิธิโรคหลอดเลือดสมองแห่งเอเชีย (AASF) ระบุว่า การควบคุมปัจจัยเสี่ยงอย่างเคร่งครัดสามารถลดโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ถึง 80%
ศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแสนปิติ – ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูและดูแล
ที่ศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแสนปิติ เรามีความเชี่ยวชาญในการดูแลและฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแบบองค์รวม ด้วยทีมสหวิชาชีพที่มีประสบการณ์ ประกอบด้วย:
- แพทย์เฉพาะทางด้านประสาทวิทยา
- นักกายภาพบำบัดที่เชี่ยวชาญด้านระบบประสาท
- นักอรรถบำบัดสำหรับฟื้นฟูการพูดและการกลืน
- พยาบาลเฉพาะทางโรคหลอดเลือดสมอง
- นักจิตวิทยาให้คำปรึกษาทั้งผู้ป่วยและครอบครัว
โปรแกรมการฟื้นฟูของเราออกแบบเฉพาะบุคคล ครอบคลุมทั้ง:
- การฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและการทรงตัว
- การฝึกกลืนสำหรับผู้มีภาวะกลืนลำบาก
- การฟื้นฟูการพูดและการสื่อสาร
- การฟื้นฟูทักษะการใช้ชีวิตประจำวัน
- การดูแลแบบประคับประคองสำหรับผู้ป่วยติดเตียง
สรุป
“แผ่นดินไหวทิพย์” อาจเป็นเพียงอาการทางระบบประสาทธรรมดา แต่ก็อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ โรคหลอดเลือดสมองได้เช่นกัน หากมีอาการบ่อยๆ หรือรุนแรงขึ้น อย่ารอช้า ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยง
และหากพบว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมอง การฟื้นฟูที่เหมาะสมคือกุญแจสำคัญสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี
เพราะในเรื่องของสมอง ทุกวินาทีมีค่า และ การฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพคือความหวังใหม่
✅ แชร์บทความนี้ให้เพื่อนหรือครอบครัวที่คุณห่วงใย ✅ หากมีอาการผิดปกติ อย่ารอให้สายเกินไป! ✅ สุขภาพสมอง สำคัญไม่แพ้หัวใจ
ข้อมูลอ้างอิง
- ข้อมูลเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
- Mal de Débarquement Syndrome (MdDS) หรืออาการคล้าย “แผ่นดินไหวทิพย์”
- แหล่งข้อมูลสุขภาพไทยที่น่าเชื่อถือ
- การฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฟื้นฟูโรคหลอดเลือดสมอง ได้ที่:
- โทร: 096-889-5395
- เว็บไซต์: www.sanpitinursinghome.com
#โรคหลอดเลือดสมอง #แผ่นดินไหวทิพย์ #สโตรค #ฟื้นฟูสโตรค #อัมพฤกษ์ #อัมพาต #กายภาพบำบัด #แสนปิติ #แสนปิติรีแฮป #ศูนย์ฟื้นฟูโรคหลอดเลือดสมอง #สัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง #เวียนศีรษะ #หูชั้นใน